บ้านเล็ก คอนโดแคบใครว่าไม่ดี นี่คือ 5 เหตุผลที่ดีที่สุดสำหรับที่พักขนาดเล็ก

ใครๆ ก็ชอบที่จะมีพื้นที่ขนาดใหญ่โดยเฉพาะถ้าเป็นที่พักอาศัย บ้านที่มีพื้นที่กว้างขวางย่อมตอบสนองการใช้งานต่างๆ ได้ครบครัน คอนโดมิเนียมที่มีขนาดใหญ่ก็ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกเป็นสัดเป็นส่วนมากกว่า นั่นจึงทำให้ที่พักอาศัยที่มีขนาดใหญ่ หรือกว้างมีราคาสูงกว่า และเป็นที่นิยมของคนทั่วไป แต่ถ้าเรามีข้อจำกัดและจำเป็นต้องพักอาศัยอยู่ในที่ขนาดเล็ก มีพื้นที่จำกัด ใช่ว่าจะไร้ข้อดี และนี่คือข้อดีของบ้านเล็ก คอนโดแคบ ที่จะทำให้คุณพอใจในสิ่งที่คุณมี และคิดแง่ดีอีกด้านของพื้นที่จำกัด

มากำจัดตะไคร่น้ำ สาเหตุทำให้พื้นลื่นและสกปรกกันเถอะ

วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปพบเคล็ดลับการทำความสะอาดบ้าน หนึ่งในปัญหากวนใจที่บ้านต่างๆ มักเจอและมักขึ้นลามไปทั่วในช่วงหน้าฝน จนทำให้บ้านดูสกปรก แถมยังทำให้พื้นลื่น ทั้งสกปรก ไม่น่ามองและเป็นสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุในบ้านด้วย วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปทำความสะอาดพื้นกัน

10 ประโยชน์ของน้ำยาล้างจาน เพื่อการทำความสะอาดบ้านที่ง่ายขึ้นอีกขั้นหนึ่ง

น้ำยาล้างจานที่เราใช้กันโดยทั่วไป ความจริงแล้วมีประโยชน์มากกว่าเอามาทำความสะอาดภาชนะใส่อาหาร ในวันนี้เราจะมาดูกันครับว่าเอามาทำอะไรได้อีกบ้าง

ศาสตร์แห่งฮวงจุ้ย : ต้นไม้ใดควรและไม่ควรปลูกในบริเวณบ้าน

อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้บ้านหรือคอนโดฯ ที่คุณอาศัยอยู่ดูน่าอยู่มากขึ้นจากแต่ก่อนที่อาจเป็นเพียงพื้นที่ว่างเปล่า นอกเหนือจากการตกแต่งลักษณะโครงสร้างในการก่อสร้างให้สวยงาม สีของวอลเปเปอร์ สีพื้น เฟอร์นิเจอร์ หรือแม้แต่การประดับบ้านด้วยของสวยงามอาทิ ภาพวาด ภาพถ่าย รูปปั้น ฯลฯ

5 จุดแนะนำ ติดตั้งชั้นวางของแล้วเวิร์คสุด สุด

สำหรับบ้านหรือที่พักอาศัยที่มีขนาดเล็กนั้น การจะนำตู้สักใบเข้ามาใส่นั้นดูจะเป็นเรื่องที่ต้องคิด ต้องวางแผนกันพอสมควรว่าจะวางตู้ไว้ตรงไหน จะเลือกตู้แบบไหน ขณะเดียวกันชั้นวางของก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ แต่การเลือกตำแหน่งติดตั้งชั้นวางของในบ้านนั้นก็เป็นเรื่องสำคัญที่ควรวางแผน เพราะหากเลือกจุดที่เหมาะสม ชั้นวางของก็จะกลายเป็นที่เก็บของมากประโยชน์ และได้ใช้งานอย่างเต็มที่

1.เหนือประตู

ถ้าบ้านของคุณมีประตูอยู่ตรงหัวมุม และคุณต้องการพื้นที่จัดเก็บของเพิ่มขึ้น ชั้นวางของชนิดที่เข้ากับมุมห้องก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะมันยังสามารถเข้ามุมได้ดีกว่าชั้นแขวนผนังแบบดั้งเดิมที่นิยมเลือกใช้กัน

2.เหนือโซฟา

แม้พื้นที่เหนือโซฟาจะเป็นจุดที่ดีสำหรับแขวนหรือประดับภาพวาด งานศิลปะต่างๆ แต่ในขณะเดียวก็เป็นจุดที่ดีสำหรับการติดตั้งชั้นวางของเพื่อเก็บของเล็กๆ น้อยๆ เช่นเดียวกัน

3.เหนือทีวี

นี่คืออีกจุดที่ดีสำหรับการติดตั้งชั้นวางของ เช่นชั้นหนังสือต่างๆ

4.เหนือโต๊ะทำงาน

ชั้นวางเหนือโต๊ะทำงานเป็นจุดที่เหมาะสม เพราะมันทำให้คุณสามารถหาแหล่งอ้างอิงจากสิ่งต่างๆ เช่นจากหนังสือบนชั้นเหล่านั้น

5.พื้นที่เล็กๆ เหนือตู้

แน่นอนวิธีนี้ไม่ใช่วิธีจัดวางชั้นวางของแนวใหม่ แต่การติดตั้งชั้นวางของเหนือตู้ขึ้นไปนับเป็นอีกวิธีการหนึ่งในการเก็บของที่แนะนำเพราะมันเหมือนเป็นการเพิ่มพื้นที่เก็บของให้กับบ้านหรือห้องครัวกะทัดรัดของคุณได้ ซึ่งอาจจะใช้จุดนี้ในห้องอื่นๆ ได้เช่นเดียวกัน

ที่มา:sanook

8 ประโยชน์เรื่องงานบ้านของไดร์เป่าผม ที่เป็นได้มากกว่าเรื่องสวยๆ งามๆ

ปกติพอนึกถึงไดร์เป่าผมเราก็มักจะนึกถึงประโยชน์ของอุปกรณ์ชิ้นนี้ในด้านความสวยความงามเท่านั้น แต่รู้หรือไม่ว่าไดร์เป่าผมมีประโยชน์สำหรับงานบ้าน บางเรื่องรู้แล้วถึงกับอึ้งว่าแค่ไดร์เป่าผมตัวเล็กๆ ก็สามารถทำได้ด้วยเหรอ

1. ลอกสติกเกอร์ ไม่ต้องเสียเวลาลอกสติกเกอร์ที่ติดเหนียวหนึบบนภาชนะหรือพื้นผิวต่างๆ อีกต่อไปแล้ว เพราะความร้อนจากไดร์เป่าผมสามารถทำให้สติกเกอร์นั้นหลุดล่อนออกมาจากพื้นผิวได้อย่างง่ายดาย

2. ทำขนาดแว่นให้พอดีกับศีรษะ ความร้อนของไดร์เป่าผมหากเป่าบริเวณขาแว่นคุณจะสามารถทำให้แว่นกระชับเข้ากับขนาดศีรษะได้ กรณีนี้ใช้ได้กับแว่นพลาสติกเท่านั้นนะคะ

3. เอาขี้ผึ้งออกจากพื้นผิว ขี้ผึ้ง น้ำตาเทียนที่หยดเปื้อนเกาะติดแน่นและทำให้พื้นเป็นรอย เพียงใช้ความร้อนจากไดร์เป่าผมเป่าให้เทียนเหล่านั้นละลาย รอยเปื้อนเหล่านั้นก็จะหายไปทันที

4. ทำให้เสื้อผ้าแห้ง แน่นอนว่าประโยชน์ในข้อนี้หลายคนคงรู้อยู่แล้ว

5. กำจัดไอน้ำหน้ากระจก หลังอาบน้ำอุ่นจะสังเกตว่ากระจกภายในห้องน้ำจะมีฝ้าเกาะจนกระจกดูขุ่นมัว วิธีกำจัดฝ้าบนกระจกอย่างรวดเร็วคือการใช้ไดร์เป่าผมเป่าบริเวณด้านหน้า เพียงเท่านี้กระจกก็จะกลับมาใสแจ๋วเหมือนเดิม

6. กำจัดฝุ่นตามจุดต่างๆ แรงลมจากไดร์เป่าผมสามารถช่วยกำจัดฝุ่นตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะตามซอกหลืบหรือมุมที่อุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ เข้าไม่ถึง

7. ลบรอยดินสอสีออกจากผนัง แน่นอนว่าบ้านที่มีเด็กเล็กๆ ผนังบ้านอาจเต็มไปด้วยรอยดินสอสี ความร้อนของไดร์เป่าผมสามารถลบรอยเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี

8. ละลายน้ำแข็ง บางครั้งของที่เราแช่ไว้ในช่องแช่แข็งนานๆ น้ำแข็งอาจเกาะและทำให้ใช้เวลานานกว่าน้ำแข็งเหล่านั้นจะละลาย เพียงใช้ไดร์เป่าผมเป่าทำละลายน้ำแข็ง คุณก็สามารถนำอาหารเหล่านั้นมารับประทานหรือประกอบอาหารได้เร็วขึ้น

ที่มา:sanook

ดักยุงเป็นกองทัพด้วยวิธีบ้านบ้าน ใช้แค่มุ้งกับพัดลม

ช่วงฤดูฝนแบบนี้ บ้านไหนมีน้ำท่วมขัง บ่อน้ำเล็กๆ อาจเป็นที่เพาะพันธุ์ของยุง หรือถ้าบ้านหลังไหนอยู่ในพื้นที่ที่มีต้นไม้เยอะ อยู่ในสวนรับรองยุงมหาศาล ซึ่งยุงก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดไข้เลือดออก หากเป็นแล้วไม่รีบไปพบคุณหมออาจถึงขั้นเสียชีวิต และเพราะยุงร้ายกว่าเสือ เราจึงพยายามหาสารพัดวิธีเพื่อกำจัดยุง และจากเพจเฟชบุ๊กคุณเกรซ ธารารัตน์ ออกมาแชร์วิธีทำเครื่องดักยุงแบบง่ายๆ ใช้เพียงมุ้งผ้าทรงกลม กับพัดลมตั้งพื้น ผลที่ได้ออกมาเกินคาด

โดยเจ้าของเพจอธิบายสั้นๆ เพียงว่า แชร์วิธีทำเครื่องดักยุงค่ะ ทำเองได้ง่ายๆ ใช้มุ้งกระโจมทรงกลม+ พัดลมที่บ้าน (เอาด้านเย็บติดกับโครงตะแกรงฝาหน้าพัดลม) เอาไปตั้งในมุมมืดรอบบ้าน เฉพาะช่วงหัวค่ำ

**แต่ต้องปิดพัดลมก่อนนอนนะคะ**

อย่าเปิดพัดลมทิ้งไว้ทั้งคืน ป้องกันอุบัติเหตุ

อุปกรณ์ประกอบด้วย

-มุ้งทรงกลม

-พัดลมตั้งพื้น

-เข็ม ด้าย

วิธีการคือ

-นำมุ้งทรงกลมครอบหน้าพัดลม แล้วใช้เข็มเย็บมุ้งกับฝาครอบตะแกรงพัดลม

เนื้อหา:เพจเฟชบุ๊กคุณเกรซ ธารารัตน์ 

Cr.sanook

แนะนำ “5 วัสดุพื้นไม้จริง” เลือกแบบที่ใช่ ลวดลายที่ชอบ ให้บ้านสวยงามเป็นธรรมชาติ

ความสวยงามของไม้จริงนั้น นับว่าเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดให้ใครหลายคนอยากนำเอามาเป็นส่วนประกอบของบ้าน โดยเฉพาะ พื้นบ้าน วัสดุไม้ที่นำมาใช้ปูพื้นบ้านนั้น ก็ทำมาจากไม้หลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละแบบก็มีคุณสมบัติและราคาที่แตกต่างกันไป

และหากคุณต้องการจะปูพื้นบ้านด้วยไม้จริงล่ะก็ คราวนี้ ในบ้าน ขอพาไปชมข้อมูลเบื้องต้นของ 5 ประเภทของวัสดุพื้นไม้จริง ลองมาดูกันเลยว่าแต่ละแบบนั้นมีลักษณะแบบไหน และมีความคงทนมากน้อยแค่ไหน

ก่อนอื่นมาทำความรู้จัก มาตราฐานความแข็งของพื้นไม้ Janka Scale กันก่อน

ความแข็งแรงของไม้แต่ละชนิด จะถูกกำหนดด้วย มาตราฐานความแข็งของพื้นไม้ หรือ Janka Scale เป็นการคำนวณโดย โดยการวัดแรงที่ใช้ในการกดลูกบอลเหล็ก (ขนาด 11.28 มม.) ลงในเนื้อไม้ให้ได้ครึ่งลูก ซึ่งเมื่อกดได้ครึ่งลูก ก็จะทำการวัดค่าความแข็งแรง ถ้าตัวเลขยิ่งสูงแสดงว่ายิ่งมีความทนทานมาก

1. ไม้โอ๊ค

ราคา : ฿

รูปลักษณ์ภายนอก : ไม้โอ๊คแดงจะมีโทนสีออกไปทางส้มๆ ที่ดูอบอุ่น (ภาพตัวอย่าง) ส่วนไม้โอ๊คขาวจะมีโทนสีที่ดูซีดเย็นกว่า

ค่าความคงทน (Janka Scale) : ไม้โอ๊คสีแดงมีค่าความคงทนอยู่ที่ 1290 ในขณะที่ไม้โอ๊คขาวมีค่าความคงทนอยู่ที่ 1360

สิ่งที่ควรรู้ : เนื่องจากไม้โอ๊คมีลักษณะเป็นไม้แบบเปิดผิวโชว์ลวดลาย ทำให้คราบสกปรกสามารถติดได้ง่ายและเท่ากันบนพื้นไม้โอ๊ค

2. ไม้เมเปิ้ล

ราคา : ฿

ลักษณะภายนอก : ไม้เมเปิ้ลนั้นมีพื้นผิวที่ค่อนข้างบาง และมักจะมีโทนสีออกไปทางสีเหลือง และจะมีโทนสีเข้มขึ้นเมื่อผ่านช่วงเวลาการใช้งาน

ค่าความคงทน (Janka Scale) : ไม้เมเปิ้ลมีค่าความคงทน 1450 นิยมใช้ในลานโบว์ลิ่ง

สิ่งที่ควรรู้ : ไม้เมเปิ้ลมีลักษณะพื้นผิวแบบปิดเนื้อผิว จึงทำให้ไม่ดูดซับความชื้นและไม่เปื้อนง่าย ใช้ได้กับห้องครัว ห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น

3. ไม้ฮิคกอรี่

ราคา : ฿฿

ลักษณะภายนอก : ไม้ฮิคกอรี่มีสีสันของลวดลายไม้ที่ค่อนข้างจะหลากหลาย ให้อารมณ์แบบบ้านรัสติคได้ดีทีเดียว

ค่าความคงทน (Janka Scale) : ไม้ฮิคกอรี่มีค่าความคงทน 1820 เหมาะที่จะใช้ในห้องที่มีการใช้งานหนักๆ อย่างเช่นห้องครัวหรือห้องรับแขก

สิ่งที่ควรรู้ : เป็นไม้ที่ไม่ดูดซับความชื้นมากนัก เหมาะสำหรับใช้กับบ้านที่อยู่ใกล้ริมทะเลเป็นอย่างยิ่ง

4. ไม้เชอร์รี่

ราคา : ฿฿฿

ลักษณะภายนอก : ไม้เมเปิ้ลมีสีสันลวดลายเนื้อไม้ที่สวยงาม และมีโทนสีที่หลากหลาย จะมีความเข้มและแดงขึ้นเมื่อผ่านระยะเวลาการใช้งาน

ค่าความคงทน (Janka Scale) : ไม้เชอร์รี่มีค่าความคงทนเพียง 950 จึงเหมาะกับห้องที่ไม่เน้นการเหยียบพื้นมากนัก อย่างเช่นห้องนอน และหากเป็นไปได้ก็ควรปูพรมทับด้วย

สิ่งที่ควรรู้ : ไม้เชอร์รี่มีความไวต่อแสงแดดมาก และพื้นผิวจะถูกเปลี่ยนสภาพอย่างรวดเร็วหากต้องแสงแดดตลอดเวลา

5. ไม้วอลนัท

ราคา : ฿฿฿

ลักษณะภายนอก : ไม้วอลนัทมีโทนสีที่เข้มขรึม และมีการจัดเรียงที่สวยงาม ส่วนมากจากมีลวดลายพื้นผิวเป็นแพทเทิร์นเส้นตรง

ค่าความคงทน (Janka Scale) : ไม้วอลนัทมีค่าความคงทนอยู่ที่ 1010

สิ่งที่ควรรู้ : พื้นไม้วอลนัทมักจะพบได้ในบ้านเก่าๆ

หากเพื่อนๆ ชอบลวดลายของไม้แบบไหน ก็ลองเลือกและเอาไปเป็นแนวทางในการปูพื้นบ้านกันดูนะครับ

ที่มา:sanook

มากำจัดเชื้อราในห้องน้ำกันเถอะ

 เชื้อราชอบความชื้น และความชื้นมักจะเกิดขึ้นในห้องน้ำซะด้วยสิ แต่หากเราสามารถทำให้ห้องน้ำที่บ้านมีความชื้นน้อยลง ก็จะลดการเกิดเชื้อราได้ แล้วมีวิธีไหนกันบ้างนะที่จะทำให้ความชื้นลดน้อยลง วันนี้เรามีคำตอบค่ะ

• ติดพัดลมระบายอากาศ

พัดลมดูดอากาศชนิดติดผนัง มอเตอร์แกนนอน/  พัดลมดูดอากาศชนิด ติดฝ้าเพดาน มอเตอร์แกนตั้ง

สามารถลดความชื้นได้ในระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ต้องดูด้วยว่าพัดลมได้ทำงานเพียงพอกับพื้นที่ของห้องน้ำหรือไม่ หากห้องน้ำมีขนาดที่ใหญ่ก็ต้องใช้พัดลมระบายอากาศที่ใหญ่ขึ้นตามขนาดของห้องเพื่อประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีเยี่ยมค่ะ

• หลังจากที่อาบน้ำเสร็จให้เช็ดน้ำออกจากผนังให้แห้ง

วิธีนี้จะช่วยลดความชื้นได้ถึง 3 ใน 4 แถมยังป้องกันการเติบโตของเชื้อราได้ด้วย

• หากจะเปลี่ยนยาแนวใหม่ ให้ใช้ยาแนวที่มีคุณสมบัติกันน้ำ
• ในเมื่อมีเชื้อราติดอยู่ในห้องน้ำแล้ว ก็สามารถทำความสะอาดได้ด้วยการขัดด้วยผงซักฟอกและน้ำ จากนั้นปล่อยให้พื้นแห้งหรืออาจจะใช้นำยาฟอกขาวผสมน้ำ แล้วนำไปใส่ขวดสเปรย์ ฉีดใส่ตรงพื้นผิวที่มีราขึ้น ทิ้งไว้ 10 นาที ล้างออกและปล่อยให้แห้ง

ถึงแม้ว่าจะทำความสะอาดห้องน้ำบ่อยและดีขนาดไหน แต่ถ้ามันมีความชื้น ยังไงก็เกิดราอยู่ดี ดังนั้นการลดความชื้นตามวิธีข้างต้น จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดค่ะ

ที่มา:sanook

4 วิธีป้องกันกลิ่นอาหารคละคลุ้ง สำหรับคนทำครัวในบ้าน

มีหลายบ้านที่นิยมตกแต่งครัวแบบฝรั่ง เนื่องจากมีรูปแบบที่สวยงาม เรียบหรู และไม่ยุ่งยาก แต่ก็มีจุดอ่อนอยู่อย่างหนึ่ง คือครัวแบบฝรั่งนั้นเป็นครัวที่ทำในบ้าน เมื่อนำมาใช้ในเมืองไทย อาจไม่สะดวกสำหรับการปรุงอาหารบางเมนู เพราะอาหารไทยส่วนมากมักต้องใช้เครื่องปรุงที่มีกลิ่นแรง หรือไม่ก็ต้องผัด-ทอดด้วยไฟแรงจัดๆ จึงทำให้กลิ่นอาหารคละคลุ้งอยู่ในบ้าน และคราบน้ำมันสามารถไปจับตามผนัง ผ้าม่านได้ เมื่อสะสมไปนานๆ จึงทำให้สกปรก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ควรทำครัวแบบฝรั่ง ทำได้ ไม่มีปัญหา เพียงแต่ต้องระมัดระวังเรื่องความสะอาดมากกว่าปกติเท่านั้น

แนะ 4 เคล็ดลับง่ายๆ ในการป้องกันปัญหากลิ่นอาหารคละคลุ้งภายในบ้าน รวมถึงความสกปรกที่เกิดจากคราบน้ำมัน และเศษอาหารด้วย ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการตกแต่งครัวแบบฝรั่ง และการทำอาหารในบ้านแล้ว ไม่ควรพลาดเด็ดขาด

1. 

1.ติดตั้งเครื่องดูดควัน

เครื่องดูดควันอาจไม่ได้ช่วยดับกลิ่นอาหารได้ก็จริง แต่อย่างน้อยก็ช่วยดูดควันจากการปรุงอาหาร ไม่ให้ฟุ้งไปทั่วบ้านได้ จึงช่วยป้องกันปัญหาคราบน้ำมันไปจับตามผนังและเฟอร์นิเจอร์ได้ในระดับหนึ่ง เพราะปรกติแล้วควันที่เกิดจากการปรุงอาหารก็มักมีละอองน้ำมันด้วยเสมอ

2. หลีกเลี่ยงเมนูผัดหรือทอดไฟแรง

เช่น ผัดผักบุ้งไฟแดง ไก่ทอด เป็นต้น เพราะน้ำมันมักจะกระเด็นเวลาปรุง และควันมักจะเยอะ เครื่องดูดควันจากอาจช่วยอะไรไม่ได้มาก ดังนั้น ทางที่ดีถ้าหากต้องการรับประทานเมนูที่ผัดหรือทอดไฟแรงจริงๆ ควรใช้วิธีซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบ Induction แล้วไปเสียบปลั๊กทำนอกบ้านจะดีกว่า อากาศจะได้ระบาย ควันจะได้มีที่ทางไหลไป ไม่ตลบอบอวลอยู่ในบ้าน ส่วนในบ้านควรทำเมนูประเภทนึ่ง ต้ม อบ จะเหมาะที่สุด

3. ควรเปิดหน้าต่างระบายอากาศเวลาปรุงอาหาร

ถึงแม้จะเป็นเมนูที่ไม่มีกลิ่นแรงหรือไม่ต้องใช้ไฟแรง แต่กลิ่นอาหารก็ยังหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี จึงควรเปิดหน้าต่าง บานเกล็ด หรือประตูเอาไว้ด้วย ให้อากาศถ่ายเท และที่สำคัญไม่ควรเปิดแอร์ทำอาหารเด็ดขาด เพราะกลิ่นจะยิ่งออกชัดมาก

4. อย่าติดตั้งผ้าม่านใกล้บริเวณที่ทำอาหาร

เพราะทั้งควัน ทั้งกลิ่นอาหาร จะลอยไปจับได้ง่าย และถ้าไม่มีการทำความสะอาด จะหมักหมมจนกลายเป็นกลิ่นเหม็นได้ในระยะยาว

ที่มา:sano

แอร์เหม็นเปรี้ยว เหม็นอับ ล้างไม่หาย แก้ไขอย่างไรดี

เมื่อเปิดแอร์แล้วมีกลิ่น แม้อากาศจะเย็นสบายแต่ถ้ากลิ่นไม่ดีเราคงทนไม่ไหว ที่สำคัญแม้จะล้างแอร์ และแผ่นกรองแล้วแต่แอร์ยังไม่หายเหม็น แท้จริงแล้วเกิดจากสาเหตุอะไร และต้องแก้ไขอย่างไรดี

สาเหตุที่ทำให้แอร์มีกลิ่น

กลิ่นอับของแอร์ส่วนใหญ่เกิดจากการสะสมของเชื้อราภายในเครื่องที่มีเป็นจำนวนมาก ซึ่งเชื้อรานั้นมีสาเหตุมาจากความชื้นภายในเครื่องตกค้าง ทำให้แอร์ไม่สามารถระบายความชื้นออกมาได้หมด และบ้านเรายังเป็นเมืองร้อนเหมาะมากที่เชื้อราจะเจริญเติบโต และเมื่อแอร์กินเนื้อพลาสติกแม้เราจะทำความสะอาดแอร์ด้วยน้ำ แต่กลิ่นเหม็นนั้นก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม

จุดไหนที่เชื้อราชอบและมักสะสมอยู่

เครื่องปรับอากาศนั้นถือเป็นโรงบ่มเพาะเชื้อราชั้นเลิศ และจุดที่มักมีเชื้อราสะสมอยู่คือท่อน้ำทิ้ง รางน้ำทิ้ง ฟองน้ำบุฉนวน แผ่นกรองแอร์ จุดอับหลังเครื่อง มุมอับอื่นๆ และแผ่นฟินอลูมิเนียม

กลิ่นเหม็นเปรี้ยว กลิ่นเหม็นอับของแอร์ส่งผลอย่างไร

หากเราหายใจเอาอากาศที่ลอยมาจากเครื่องปรับอากาศเข้าไป นั่นหมายถึงเชื้อราเดินทางเข้าสู่ร่างกาย หากเชื้อราเหล่านี้มีเพียงเล็กน้อยก็ไม่เกิดอันตราย เพราะร่างกายเรามีภูมิคุ้มกันอยู่ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเราหายใจเอาเชื้อราเข้าไปในร่างกายทุกวันอาจทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ หอบหืด การระคายเคืองทางเดินหายใจ

วิธีแก้ไขกลิ่นเหม็นจากแอร์หรือเครื่องปรับอากาศ

ก่อนอื่นต้องหาจุดที่ทำให้เกิดกลิ่นอับก่อนว่าคือจุดไหน จากนั้นล้างแอร์ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อรา เมื่อล้างเสร็จเรียบร้อยแล้วทำแอร์ให้แห้งสนิท อาจต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนเปิดใช้งาน แต่ถ้าจุดที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับนั้นอยู่ในจุดที่เข้าถึงยากเช่นแผ่นกรองเล็ก โฟม ฟองน้ำฉนวน หรือท่อน้ำทิ้ง แนะนำให้เปลี่ยนอะไหล่เหล่านี้ใหม่

ที่มา:sanook

10 เคล็ด (ไม่) ลับ แต่งห้องพื้นที่น้อยอย่างชาญฉลาด ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

วันนี้ขอเอาใจคนชอบไอเดียการตกแต่งห้องแบบใช้พื้นที่น้อย ด้วย “10 เคล็ด (ไม่) ลับการออกแบบอย่างชาญฉลาดสำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก”

ใครใช้อยู่แล้วหรือกำลังจะนำไปใช้ซักกี่ข้อ เราไปชมกันเลยค่ะ

ข้อที่ 1 ใช้ที่เก็บของในครัวแบบอเนกประสงค์

นอกจากจะเป็นตู้เก็บของในครัวแล้ว ดีไซน์ตู้แบบนี้จะช่วยกั้นห้องครัวแยกจากพื้นที่รับประทานอาหาร ทำให้ดูเป็นสัดส่วนโดยไม่จำเป็นต้องกั้นห้อง ซึ่งเจ้าชั้นวางลักษณะสูงนี้ยังเก็บได้ทั้งอุปกรณ์และเครื่องตกแต่งได้มากมาย

ข้อที่ 2 ไม่ต้องใช้ห้องทำงาน ก็มีโฮมออฟฟิศสวยๆได้

เคล็ดลับในการจัดห้องขนาดเล็กก็คือ จะไม่ปล่อยให้พื้นที่ใดๆ สูญเปล่า มุมทำงานนี้ ใช้ซอกระหว่างตู้เสื้อผ้า/ตู้เก็บของ 2 ใบเป็นมุมนั่งทำงานที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ มีพื้นที่ว่างเอกสารหรือหนังสือบนชั้นวาง ซึ่งข้อดีของการจัดมุมทำงานในซอก ทำให้ทางเดินในห้องยังคงกว้างเป็นปกติ

ข้อที่ 3 ชั้นวางของแบบติดผนัง

ชั้นวางของแบบติดผนังเป็นไอเดียสำคัญของห้องน้ำ เพราะจะไม่ต้องตั้งตู้แบบ built-in ให้เปลืองพื้นที่ แถมชั้นวางแบบนี้ยังหยิบของใช้ได้ง่าย

ข้อที่ 4 สร้างพื้นที่อเนกประสงค์

บางทีเราอาจรวมห้องที่ไม่ค่อยได้ใช้ อย่างห้องนอนแขก มาไว้กับห้องทำงาน ตัวช่วยสำคัญของห้องนี้คือ Murphy bed หรือ Wall bed เมื่อไม่ใช้ก็พับเก็บอยู่ด้านข้างของโต๊ะทำงานและชั้นวางสำเร็จรูป

ข้อที่ 5 รักษาความสว่าง

เป็นที่รู้กันดีว่า เพื่อให้พื้นที่ดูมีขนาดใหญ่จะต้องหลีกเลี่ยงการใช้เฉดสีเข้ม (การใช้สีเข้มสามารถใช้อย่างรอบคอบได้โดยใ้ช้เพียงไม่่เกิน30%ของห้องทำให้ดูไม่จืดชืดเกินไป) และให้พื้นที่ได้มีแสงส่องผ่าน

ข้อที่ 6 ใช้ม่านเป็นตัวแบ่ง

การกั้นพื้นที่โดยใช้ม่านเป็นอีกไอเดียที่เหมาะสำหรับการแบ่งแยกสายตาระหว่างห้องสองห้อง เช่นห้องนั่งเล่นกับห้องทานอาหาร แต่ถ้าหากอยากใช้พื้นที่กว้างๆ (ทั้งสองส่วนรวมกัน) ก็แค่เปิดม่านเท่านั้น

ข้อที่ 7 ใช้พื้นที่ใต้บันได

อย่างที่ทีมงานเคยนำเสนอหลายครั้ง บางครั้งพื้นที่ใต้บันไดก็น่าอึดอัดเกินกว่าจะทำเป็นห้องหรือที่นั่ง แต่เราสามารถใช้การเพิ่มลิ้นชักด้านล่างบันได หรือทำเป็นมินิบาร์เพื่อใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า

ข้อที่ 8 ใช้หน้าต่างให้เป็น

เคล็ดลับของห้องเล็กๆ คือ ให้ใช้หน้าต่างที่สูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน หน้าต่างแบบนี้จะช่วยเพิ่มความรู้สึกให้ห้องดูสูงและมีพื้นที่มากขึ้น แน่นอนว่าการที่แสงส่องก็ทำให้ห้องดูใหญ่ขึ้นด้วยนะคะ

ข้อที่ 9 ชั้นวางแบบสร้างสรรค์

สำหรับคนที่มีหนังสือหรือข้าวของเยอะ รวมถึงบ้านที่มีของเล่นเด็ก อาจจะบ่นกันว่าห้องขนาดเล็กทำให้ไม่มีพื้นที่จะจัดเก็บของให้เรียบร้อย อาจจะกล่องผ้าเป็นตัวช่วยในการเก็บของเพื่อให้ผ้าเป็นตัวบังสายตาจากความไม่เป็นระเบียบ แต่หยิบใช้ได้ง่าย

ข้อที่ 10 ใส่กระจกไว้ในห้อง

หนึ่งในเทคนิคที่ดีที่สุด (และง่ายที่สุด) ในโลกการออกแบบคือ การเพิ่มกระจกขนาดเต็มตัว เพื่อขยายพื้นที่ทางสายตา ทำให้ห้องดูเหมือนจะกว้างขึ้น กระจกสูงจะช่วยเพิ่มมิติของพื้นที่และทำให้ห้องนอนขนาดเล็กดูมีขนาดใหญ่ขึ้น

ที่มา:sanook