![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiHU2GT2661meBNIZ9ADKko9dyInzu43_cFP_AyKpFuo2n90kxF3XIknSma-xl4g1dFT_93wqLkW8EgzKsj2Wc8geJkvjIlO0pCIp2B37CLG0Jk-p07UWtgXlZjjBxqSERsEYldhDqrSNc/w400-h240/aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL2htLzAvdWQvNS8yODc0NS90bmhvbWUyNDMuanBn+%25281%2529.jpg)
กำลังจะเข้าสู่หน้าร้อนแล้ว นอกจากเรื่องของอากาศที่ทำให้เราหงุดหงิดแล้ว "ค่าไฟฟ้า" เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นปัญหาทุกปี โดยเฉพาะบ้านไหนมีเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชิ้น แถมจำนวนสมาชิกในบ้านยังมีหลายคน เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นจะทำให้เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายสำหรับเรา มาเช็กกันดีกว่าว่า มีเครื่องใช้อะไรบ้างที่สูบเงินในกระเป๋าเรามหาโหด จากนั้นไปดูว่ามีเทคนิคการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไรไม่ให้สิ้นเปลืองค่าไฟฟ้า และถ้าเรามีเครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟเหล่านั้นอยู่ในบ้านจะใช้อย่างไรให้ประหยัดมากที่สุด
จัดอันดับเครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟ
โดยทั่วไปแล้ว หน่วยวัดพลังงานไฟฟ้าจะใช้เป็นกิโลวัตต์ โดย 1 กิโลวัตต์/ชั่วโมง เท่ากับ 1,000 วัตต์ ซึ่งเป็นปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่เราใช้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ต่อหนึ่งชั่วโมง โดยเครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟภายในบ้านที่เราใช้กันอยู่ทั่วไป มีดังนี้
1. เครื่องทำน้ำอุ่น ใช้ไฟ 2,500-12,000 วัตต์ ค่าไฟชั่วโมงละ 10-47 บาท
2. เครื่องปรับอากาศ ใช้ไฟ 1,200-3,300 วัตต์ ค่าไฟชั่วโมงละ 5-13 บาท
3. เครื่องซักผ้า ใช้ไฟ 3,000 วัตต์ ค่าไฟชั่วโมงละ 12 บาท
4. เตารีดไฟฟ้า ใช้ไฟ 750-2,000 วัตต์ ค่าไฟชั่วโมงละ 3-8 บาท
5. เครื่องดูดฝุ่น ใช้ไฟ 750-1,200 วัตต์ ค่าไฟชั่วโมงละ 3-5 บาท
6. เครื่องปิ้งขนมปัง ใช้ไฟ 800-1,000 วัตต์ ค่าไฟชั่วโมงละ 3-4 บาท
7. หม้อหุงข้าว ใช้ไฟ 450-1,500 วัตต์ ค่าไฟชั่วโมงละ 2-6 บาท
8. เตาไมโครเวฟ ใช้ไฟ 100-1,000 วัตต์ ค่าไฟชั่วโมงละ 0.40-4 บาท
9. เครื่องเป่าผม ใช้ไฟ 400-1,000 วัตต์ ค่าไฟชั่วโมงละ 2-4 บาท
10. โทรทัศน์ ใช้ไฟ 80-180 วัตต์ ค่าไฟชั่วโมงละ 30-70 สตางค์
11. ตู้เย็น 7-10 คิว ใช้ไฟ 70-145 วัตต์ ค่าไฟชั่วโมงละ 25-60 สตางค์
12. พัดลมตั้งพื้น ใช้ไฟ 20-75 วัตต์ ค่าไฟชั่วโมงละ 10-30 สตางค์
หมายเหตุ คิดจากค่าไฟฟ้าเฉลี่ย ประมาณ 3.9 บาท/หน่วย (ข้อมูลจากการไฟฟ้านครหลวง)
วิธีเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟ แบบช่วยประหยัด
หากเราเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสม จะช่วยทั้งเรื่องการทำงานที่เหมาะกับการใช้งาน รวมทั้งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ อีกด้วย
1.เลือกขนาดให้เหมาะสม
อย่างการเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศนั้นควรเลือกซื้อให้เหมาะกับพื้นที่บ้าน หรือพื้นที่ห้องที่จะติดตั้งเครื่องปรับอากาศ โดยบ้านที่มีพื้นที่ 2,000-2,500 ตารางฟุต ควรเลือกติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบ 34,000 BTU/ชั่วโมง ส่วนบ้านที่มีขนาด 1,000-1,200 ตารางฟุต อาจเลือกติดตั้งเครื่องปรับอากาศ 21,000-24,000 BTU/ชั่วโมง
2.มีเครื่องหมายประหยัดไฟกำกับ
ในปัจจุบันมีการตรวจสอบมาตรฐานเรื่องการใช้พลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ อยู่แล้ว ดังนั้นตรา หรือเครื่องหมายรับรองประหยัดไฟถือเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบไม่กินไฟได้ง่ายขึ้น เช่นฉลากเบอร์ 5 เป็นต้น
3.โหมดประหยัดพลังงาน
โหมดประหยัดพลังงานเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะมีส่วนช่วยให้ประหยัดไฟกว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทเดียวกันที่ไม่มีโหมดประหยัดพลังงาน
4.ดีไซน์
เครื่องใช้ไฟฟ้าบางชิ้นการดีไซน์ช่วยให้ประหยัดไฟฟ้าได้มากขึ้น อย่างเช่นตู้เย็นแบบที่มีประตูเดียว ประหยัดไฟมากกว่าตู้เย็นแบบสองประตู เพราะไม่ต้องแยกประตูระหว่างช่องแช่แข็งและช่องแช่ธรรมดา
เทคนิคใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ใช้แบบไหนช่วยประหยัดไฟ
1.หากไม่ใช้เครื่องไฟฟ้าชิ้นใดแล้ว ให้ดึงปลั๊กออกทุกครั้ง
2.หากเราใช้ปลั๊กพ่วงสำหรับเสียบอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมกัน เมื่อใช้งานเสร็จแล้วให้ดึงปลั๊กพ่วง และปิดสวิตซ์ทีเดียว
3.หากอากาศไม่ร้อนเกินไป ควรเปิดบ้านให้รับลมธรรมชาติ ลดการใช้เครื่องปรับอากาศ
4.ตั้งค่าเทอโมสเตทเมื่อใช้เครื่องปรับอากาศ เพราะจะช่วยลดระดับอุณหภูมิให้เหมาะสม ทำให้เราใช้ไฟฟ้าไม่เกินความจำเป็น
5. หากใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใดมานานจนเกินไป ควรเปลี่ยน เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นเก่านั้นกินไฟมากกว่า
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เข้ามามีส่วนในทำกรรมและอำนวยความสะดวกให้กับเรามากยิ่งขึ้น ดังนั้นหากมีคู่มือนี้ไว้รับรองช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้แน่นอน
ที่มา:sanook
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น